วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แฉ..พม่าจะมีประชาธิปไตยแบบซีเรีย อิรัก ลิเบีย ยูเครนแล้ว เตรียมรับผู้อพยพกันหรือยัง ??


ตามยุทธศาสตร์คุมแหล่งน้ำมันรวมทั้งเส้นทางเดินของน้ำมัน เพื่อบล็อคไม่ไห้น้ำมันไปถึงจีนได้นั้น จ้าวลัทธิประชาธิปไตย จอมเผด็จการโลกได้สร้างกลุ่มก่อการร้ายสารพัดกลุ่มก่อความวุ่นวายแถวอาฟริกา จนถึงตะวันออกกลางนั้น หน่วยงานก่อการร้ายอื่นๆ ของจ้าวลัทธิก็ทำงานควบคู่ไปด้วย

ช่วงปี พ.ศ.2545 - 2551 จ้าวลัทธิประชาธิปไตย ยัดเยียดหนุนการปฏิวัติหลากสีไปทั่วโลก เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ปกครองประเทศ ที่ปกครองในบางประเทศมานาน เพื่อต้องการเปลี่ยน เอาคน หรือกลุ่มการเมืองที่อเมริกาเลือกมาปกครองประเทศเหล่านั้น เพื่อจะได้เข้าไปครอบครองทรัพยากร และการปกครองประเทศเหล่านั้นแบบ “นอมินีรีโมท”



โดยสร้างวาทะกรรมและความเชื่อว่า ประเทศทั้งหลายในโลกต้องปกครองด้วยลัทธิประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทน "ตามที่จ้าวลัทธิต้องการ" มาปกครอง  ในช่วงนั้นจ้าวลัทธิได้ทุ่มเงินจาก CIA จัดตั้งองค์กรที่เรียกว่า “ เอ็นจีโอ “ ขึ้นมาจำนวนมากในสาระพัดชื่อ

โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่รัฐบาลจ้าวลัทธิให้ CIA สนับสนุนเงินทุนแก่เอ็นจีโอเหล่านี้ และให้อยู่ในความดูแลสายบังคับบัญชาของ CIA เพนตากอน ของจ้าวลัทธิ  เอ็นจีโอเหล่านี้ต้องทำงานตามคำสั่ง “ป่วน” ของจ้าวลัทธิเพื่อผลทางการเมืองทางตรง หรือทางอ้อมในประเทศเป้าหมายเท่านั้น 

ห้ามสร้างคุณประโยชน์แท้จริงให้กับประชาชน แต่ให้อ้างประชาชนบังหน้าไว้ตลอดเวลา เอ็นจีโอเหล่านี้จะถูกฝึกให้เหมือนนกแก้วนกขุนทอง เพราะพูดได้ไม่กี่ประโยค เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่เอาเผด็จการ  ต้องการเป็นประชาธิปไตย เลือกตั้ง ฯลฯ นกแก้วพวกนี้จ้าวลัทธิเลี้ยงไว้มีหลายพันธุ์


เช่น พันธุ์ซีเรีย อิรัก ยูเครน เยเมน ไนจีเรีย อาเจะอินโดนีเซีย  พันธุ์กบฏลาว พันธุ์อั้งยี่เผาไทย พันธุ์ก่อการร้ายแดงป่วนชาติ นปช. พันธุ์อุยกูร์ของจีน ในเขตซินเกียง และพันธุ์ชนกลุ่มน้อยกว่า 10 กลุ่มในพม่า ที่จ้าวลัทธิหมายมั่นปั้นมือมานานว่าจะต้องปล่อย “หนอนร้ายอองซาน” มาไว้ปลุกปั่นชาวพม่าให้ได้

กองทุนในสังกัด CIA ที่สนับสนุนการ “ปฏิวัติสีผ้าเหลือง” โดยพระพม่า คือ National Endowment for Democracy (NED) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนโยบายแทรกแซงต่างประเทศของจ้าวลัทธิ  โดยผู้ที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่ NED อีกต่อคือ Open Society ของ จอร์จ โซรอส ตัวแสบ

กระทรวงต่างประเทศจ้าวลัทธิ ได้คัดตัวหัวหน้าที่จะไปเป็นแกนนำปฏิวัติสีผ้าเหลือง จากหลายองค์กรในพม่า ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร โดย NED ส่งเงินประมาณปีละราว 75-80 ล้านบาท ให้กับแกนนำพระไปสร้างขบวนการประท้วง โดยมีศูนย์บัญชาการใหญ่อยู่ที่สถานกงสุลจ้าวลัทธิ ที่เชียงใหม่ของไทยนี่เอง


ส่วนพวกแกนนำพระก็ฝึกอบรมกันอยู่แถวชายแดนไทย บางครั้งพวกตัวสำคัญก็ถูกส่งไปอบรมล้างสมองที่ประเทศจ้าวลัทธิโดยอ้างไปดูงานเรื่องเสรีภาพ แล้วก็กลับมาจัดองค์กรในพม่า นอกจากนั้นทุนจาก NED ยังจ่ายเงินให้กับสื่อนอมินี เช่น New Era Journal , Democratic Voice of Burma และ Irrawaddy ที่เป็นของอองซานหนอนร้ายนั่นเอง

นายจีน ชาร์พ ก่อตั้งองค์กรชื่อ สถาบันอัลเบิร์ตไอนสไตน์ ในอเมริกา และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายสถาบันในสังกัด CIA เขาใช้ทฤษฏี “ฝูงผึ้ง” โดยการปั้นสร้างพวกขายชาติที่จะเป็นผู้นำกลุ่มก่อน ต่อมาก็หนุนให้สร้างขบวนการเคลื่อนไหว และจ้างจัดหาคนมาร่วมที่ไม่ต้องมาก

เพราะการเคลื่อนไหวจะทำให้คนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ นายจีน ชาร์พ เดินทางไป-มาอยู่ระหว่างพม่ากับจีน และปลุกปั่นจนเคยเกิดเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินของจีน และเขาก็ยังเป็นผู้กำกับให้เกิด “อาหรับสปริง” ม็อบปฏิวัติล้มรัฐบาลตะวันออกกลางขึ้นอีกราว 10 ประเทศ


พ.ศ.2532 หัวหน้าปฏิบัติการ CIA และอดีตทูตทหารอเมริกันในย่างกุ้ง นำนายจีน ชาร์พ และองค์กรปลุกระดมของเขาส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายในพม่า ก่อนการก่อม็อบพระใหญ่ รัฐบาลจ้าวลัทธิมอบหมายให้นาย จีน ชาร์พ เป็นผู้รับผิดชอบฝึกอบรม กำกับวิธีการประท้วงม็อบพระและการก่อสงครามกลางเมือง

เป้าหมายของการก่อปฏิวัติสีผ้าเหลืองนี้ เนื่องจากพม่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางเดินเรือน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียที่แน่นขนัด เลียบฝั่งพม่าผ่านเข้าไปสู่ช่องแคบมะละกา เชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก ไปสู่ทะเลจีนใต้ที่สั้นที่สุด สำหรับส่งน้ำมันไปจีน

 

ประมาณ 80% ของน้ำมันที่จีน หรือญี่ปุ่นนำเข้าต้องขนส่งทางเรือผ่านจุดนี้ มีเรือกว่า 5 หมื่นลำต่อปี แล่นผ่านช่องแคบมะละกา เส้นทางเดินเรือตั้งแต่พม่าไปจนถึงบันดาร์อาเจ๊ะ จึงเป็นแนวที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ใครควบคุมเส้นทางนี้ได้ก็หมายความว่าได้ควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันทางน้ำของจีน และของญี่ปุ่นด้วย

ปี พ.ศ.2550 ความพยายามเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท คัดเลือกตัวแสดงเข้าฉาก และกำกับการแสดงของจ้าวลัทธิประชาธิปไตย จอมเผด็จการโลก สำเร็จตามเป้าหมายบิ๊กซีนีมา เกิดม็อบการปฏิวัติหลากสีขึ้นที่พม่าเรียกว่า “ปฏิวัติสีผ้าเหลือง” ซึ่งต่อเนื่องมาจากในยุโรปตะวันออก บริเวณที่ติดกับรัสเซีย


ปฏิวัติสีเหลืองในพม่านั้นเรียกตามสีจีวรพระ เพราะอเมริกาวางแผนใช้พระพม่าเป็นเครื่องมือ เดินนำการประท้วงรัฐบาลทหารพม่า เพราะคนพม่านับถือพุทธมากและพระมีบทบาททางจิตวิญญาณในสังคมพม่า กลุ่มผู้คิดแผนรวมตัวกันอยู่ที่สถานกงสุลจ้าวลัทธิที่เชียงใหม่ของไทย

พล็อตเรื่องสาเหตุการประท้วง ก็อ้างแถดื้อๆ ว่ารัฐบาลทหารของพม่ายกเลิกการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาขายน้ำมันในพม่าพุ่งสูงขึ้นไปประมาณเกือบ 1 เท่าตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน โดยจ้าวลัทธิใช้เอ็นจีโอ ปลุกปั่นนักเรียน แม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และพระพม่าจำนวนมากให้ออกมาก่อม็อบ


เป้าหมายเบื้องหลังจริงๆ ก็คือสร้างความปั่นป่วนในสังคมพม่า เพื่อหวังจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทหารพม่าที่ปกครองประเทศมานาน แต่ไม่ยอมยกสัมปทานทรัพยากรให้กับจ้าวลัทธิและชาติตะวันตกจอมล่าอาณานิคม และหวังจะเชิดอองซานเมียฝรั่งขึ้นมาเป็นผู้นำ นอมินีหุ่นเชิด


แม้อองซานเป็นเองไม่ได้ ก็จะเชิดเอาคนที่อองซานสั่งซ้ายหันขวาหันได้มาเป็น เพื่อเปิดทางให้ชาติตะวันตกเข้ามาปกครองพม่าแบบเบ็ดเสร็จแล้วโกยทรัพยากรกลับบ้านเหมือนเคยที่ทำมาหลายร้อยปี โดยเชิดอองซานให้เดินสายปลุกระดมในย่านชนบทของพม่า ผสานกับเอ็นจีโอ นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า


แกนนำพระพม่า (คล้ายๆ พระแดง นปช.ของไทย) และสื่อมวลชนญี่ปุ่น ได้เวลานัดหมายม็อบพระพม่าได้มารวมตัวกันที่หน้าบ้านอองซานหนอนร้าย แล้วเคลื่อนไปตามถนนในเมืองย่างกุ้ง จนม็อบพระโดยการเชิดของจ้าวลัทธิประชาธิปไตย กับอองซานเกิดการปะทะอย่างรุนแรงกับทหารพม่าที่จำเป็นต้องรักษาความสงบของสังคม


ป้ายขี้ให้กับรัฐบาลทหารพม่าว่าปราบปรามประชาชน เป็นเผด็จการ และละเมิดสิทธิมนุษยชน  แกนนำสื่อมวลชนญี่ปุ่นที่นำม็อบก็ถูกยิงตาย ลุกลามเป็นเรื่องขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารของพม่า กับรัฐบาลญี่ปุ่น จนสังคมพม่าแตกร้าวอย่างหนักมาอีกหลายปี และจากนั้นปี 2552-2553 จ้าวลัทธิก็ใช้วิธีการเดียวกัน

หนุนคนแดนไกล และแก็งค์อั้งยี่เผาไทยขายชาติปลุก “ม็อบเสื้อแดง” ในนามกลุ่มก่อการร้ายหน่วยป่วนชาติแดง นปช.ให้ออกมาเผาบ้านเผาเมือง และสร้างชายชุดดำ นปช.มายิงคนเสื้อแดงด้วยกันเอง และยิงทหาร เพื่อให้ต่างฝ่ายเข้าใจผิดกันและลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมือง


ถ้าถามว่าอะไรคือประชาธิปไตยในความหมายของจ้าวลัทธิ  คำตอบที่แท้จริง คือ ผลประโยชน์ของชาตินักล่าอาณานิคม  ต่างชาติเหล่านี้เรียกร้องให้มีเลือกตั้ง อ้างว่าเพื่อคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน  แต่ความจริงก็คือเพื่อให้ชาติตนเองได้มีโอกาสเข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศเป้าหมายผ่านนักการเมืองได้นั่นเอง


พิธีกรรมเลือกตั้งบูชายัญในพม่า "คืนอำนาจประชาชนให้นักการเมือง" เพื่อให้จ้าวลัทธิบรรลุเป้าหมายวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมามีผู้สมัครรับเลือกตั้งรวมกว่า 6,000 คน เพื่อช่วงชิงเก้าอี้ในสภา 664 ที่นั่ง  ผลคะแนนที่สรุปแน่นอนน่าจะต้องใช้เวลาอีกราวเกือบครึ่งเดือน แม้ว่าพรรค NLD ของอองซาน จะได้คะแนนเสียงข้างมาก


แต่อย่าหวังง่ายๆ ว่าจะสามารถเป็นผู้นำรัฐบาลได้เพราะรัฐธรรมนูญพม่าเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของจ้าวลัทธิ  อองซานไม่มีทางได้เป็นผู้นำพม่าแน่นอน 100% และการจะเชิดนอมินีขึ้นมาเป็นแทนเหมือนคนแดนไกลทำในไทย ตามที่อองซานประกาศไว้ว่า "จะเป็นผู้บริหารประเทศตัวจริง โดยอยู่เหนือประธานาธิบดี และผู้นำนอมินี จะต้องทำตามสิ่งที่เธอสั่ง" ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ตามที่คิด เพราะทหารพม่าได้วางหมากกลไว้หลายชั้น


และคาดว่าผู้นำคนต่อไปของรัฐบาลพม่า ก็คือผู้นำทหารคนปัจจุบันนี้จะบริหารประเทศต่อไปสักระยะจนถึงราว มี.ค.59 เนื่องด้วยเขามีปัญหาสุขภาพ และจะมีการช่วงชิงอำนาจรัฐกัน ดังนั้นทางเดียวที่อเมริกาจะไปถึงความฝันได้ คือต้องจุดชนวนสงครามกลางเมืองในพม่าเหมือนครั้ง “การปฏิวัติสีเหลือง” ที่ล้มพังพาบไปในปี 2550

แต่ครั้งนี้จะเปลี่ยนมุขมาเป็น “การปฏิวัติสีแดง” ตามสีที่อองซานและพวกใช้ในการหาเสียง  และจะลุกลามจนนำไปสู่ความสับสนวุ่นวายรอบใหม่ เกิดสงครามกลางเมืองใหญ่ในทำนองเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์อาหรับสปริง และเกิดการรัฐประหารต่อสู้กันระหว่างทหารและมวลชนชาวพม่าในที่สุด


ตามด้วย ผบ.สูงสุดพม่า ลูกบุญธรรมป๋า จะได้เป็นผู้นำรัฐบาลพม่าคนต่อไป  จึงให้จับตา 6 เดือนในพม่านับแต่นี้เมื่อจ้าวลัทธิมอบลัทธิประชาธิปไตย  ผ่านพิธีกรรมเลือกตั้งมาให้แล้ว  จะมีความเสี่ยงจะเกิดเลือดนองท้องช้าง เพราะคนพม่าไม่ทันฉุกคิดว่าพวกเขาได้กินหนอนร้ายชาติล่าอาณานิคมเข้าไปแล้ว

สงครามกลางเมืองที่จ้าวลัทธิประชาธิปไตยพล็อตเรื่องไว้ “พม่าสปริง” การข่าวมาว่าจ้าวลัทธิสร้างกองกำลังคล้ายๆ IS CIA ขึ้นในพม่าแล้ว เป็นกองกำลังโรฮินจามูจาฮีดีน ผสมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยอีกราว 20 กลุ่ม เพื่อเป็นเหตุผลในการส่งกำลังทหารเข้าแทรกแซงพม่าโดยอ้างว่ามาในนาม UN


จ้าวลัทธิประชาธิปไตย กำลังบ่อนทำลายการเปิดอาเซียน พลาดจากไทยก็หมายจะปักหมุดที่พม่า ต่อคิวด้วยลาว และเขมร แบบที่ทำกับ อิรัก ซีเรีย เยเมน ลิเบีย ยูเครน ชาวพม่าฝันอยากได้ประชาธิปไตยเพราะคิดว่าลัทธินี้จะทำให้อยู่ดีกินดี แต่น่าจะได้สงครามกลางเมืองมาแทน


พม่าเคยเจ็บปวดเพราะถูกปกครองโดย อังกฤษอยู่นานหลายร้อยปี เพราะมีคนพม่าเป็นหนอนบ่อนไส้ คนพม่าต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ต้องสูญเสียวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดชนชาติมาหลายพันปี พ้นจากยุคอาณานิคมก็ตั้งหลักไม่ได้ต้องมีจีนโอบอุ้มคุ้มครองนานถึงกว่า 50 ปี ท่ามกลางการข่มเหงรังแกจากลัทธิประชาธิปไตยชาติตะวันตกสารพัดในรูปแบบ “การคว่ำบาตรทางการค้า” 

ประวัติศาสตร์กำลังจะย้อนรอย ประชาธิปไตยที่พม่าได้รับคราวนี้อาจถึงต้องสิ้นชาติแตกเป็นเสี่ยง เละเป็นโจ๊กแบบ อิรัก ซีเรีย..คนขายอาวุธกำลังนอนฝันหวานและขอบคุณชาวพม่าที่ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง..คนไทยเตรียมตัวรับคลื่นผู้อพยพลี้ภัยสงครามพม่ากันหรือยัง ??


เสธ น้ำเงิน4
** หนังสือรวมเล่ม แฉ ความลับ ทุกตอนเหมาะเป็นของฝากสำหรับนักรบน้ำหมาก หรือของสะสม ที่ร้าน B2S ทุกสาขา หรือขอรับง่ายๆ คลิ๊กไปที่ http://t.co/KxhM77h8oO 

กติกา" คอมเม็นท์โปรดงดคำหยาบ , ป่วน , ภาพ สามารถประสานสอบถามทีมงานรวมเล่มหนังสือ แฉ ความลับ คลิ๊กไปที่ http://www.facebook.com/topsecretthaibook

ไม่มีความคิดเห็น: