สถานการณ์สงครามโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเดิม “สงครามเย็น” ได้เปลี่ยนเป็น “สงครามร้อนระอุ”
และรัสเซียไม่ได้เป็นอย่างสหภาพโซเวียตในอดีต ดังนั้นอเมริกา นาโต้ หรือใครก็ตามที่คิดว่ารัสเซียกำลังติดหล่มสงครามในซีเรีย
เหมือนที่เคยตกม้าตายในอดีตที่อัฟกานิสถาน นั่นแสดงว่าพลาดแล้วเพราะไม่เหมือนกันแน่นอน
เพราะสหภาพโซเวียตพ่ายแพ้ในอัฟกานิสถาน
จากการต่อสู้กับชาติตะวันตก โดยการนำของอเมริกา
หลังจากที่รถถังของสหภาพโซเวียตได้เข้าไปถึงยังเมืองคาบูล อัฟกานิสถาน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติได้ต่อสายตรงหาประธานาธิบดีอเมริกาสมัยนั้นคือ
“จิมมี คาร์เตอร์”
เพื่อที่จะรายงานสถานการณ์ว่าอัฟกานิสถานและเวียดนาม ได้กลายเป็นของสหภาพโซเวียตไปแล้ว อเมริกา นาโต้ และประเทศอาหรับ ต่างก็พยายามทุ่มเทอย่างสุดความสามารถที่จะทำลายอำนาจ ของสหภาพโซเวียตในอัฟกานิสถาน ในขณะนั้นอเมริกาได้พยายามรวบรวมกลุ่มก่อการร้ายจากที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อขับไล่สหภาพโซเวียตออกจากอัฟกานิสถาน
เพื่อที่จะรายงานสถานการณ์ว่าอัฟกานิสถานและเวียดนาม ได้กลายเป็นของสหภาพโซเวียตไปแล้ว อเมริกา นาโต้ และประเทศอาหรับ ต่างก็พยายามทุ่มเทอย่างสุดความสามารถที่จะทำลายอำนาจ ของสหภาพโซเวียตในอัฟกานิสถาน ในขณะนั้นอเมริกาได้พยายามรวบรวมกลุ่มก่อการร้ายจากที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อขับไล่สหภาพโซเวียตออกจากอัฟกานิสถาน
เหล่าบรรดานักรบรับจ้างร้อยพ่อพันแม่ กลุ่มอาชญากรเหลือขอ ถูกเกณฑ์มาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อเป็นเครื่องจักรสังหาร ตามภารกิจตามที่อเมริกาวางไว้ เรียกได้ว่าอัฟกานิสถานสมัยนั้นเป็นซ่องโจรก็ว่าได้ จนในที่สุดอเมริกาผู้เคยประกาศเป็นตำรวจโลก ต้องกลายมาเป็นผู้นำกลุ่มก่อการร้ายเสียเอง
แต่บรรดาสื่อยิวไซออนิสต์ใหญ่ๆ ของโลก และประเทศอาหรับต่างเรียกเครื่องจักรสังหารเหล่านี้ซะโก้หรูว่า “นักรบอิสระ” อเมริกา และพันธมิตรอาหรับได้ให้การสนับสนุนนักรบรับจ้างในอัฟกานิสถานมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท และถึงกับมอบขีปนาวุธทุกรูปแบบให้กับเครื่องจักรสังหาร เพื่อใช้ต่อกรกับสหภาพโซเวียต
ขีปนาวุธเหล่านั้นทำให้กองทัพอากาศของโซเวียตเป็นอัมพาต
หลังจากเครื่องจักรสังหารในอัฟกานิสถานได้ขับไล่สหภาพโซเวียตออกจากประเทศสำเร็จภารกิจลุล่วง
อเมริกาและนาโต้ได้เข้าไปยุแหย่เสี้ยมจนทำให้เกิดสงครามกลางเมือง และทำลายอัฟกานิสถานจากภายใน
จากนั้นก็ลอยแพเครื่องจักรสังหารโดยประกาศว่าพวกนี้เป็น “ผู้ก่อการร้าย”
และจัดอันดับไว้ในลิสต์รายชื่อกลุ่มก่อการร้ายอันตรายร้ายแรงของโลก ส่งผลให้อเมริกามีข้ออ้างทำสงครามไม่มีวันจบต่อเนื่อง โดยการทิ้งระเบิดขับไล่นักรบรับจ้างที่สร้างมาไปยังดินแดนที่ห่างไกลที่สุด และจับนักรบเหล่านั้นไปยังค่ายกวนตานาโม เพื่อทรมาณโดยไม่ต้องขึ้นศาลตัดสิน
อเมริกาจึงคิดว่ามุกเดิมนี้น่าจะเอามาใช้ได้ผลในซีเรีย
จึงสนับสนุนกลุ่มอัลกออิดะห์ที่อเมริกาเคยสนับสนุนให้ระเบิดตึกเวิลล์เทรดเซ็นเตอร์
ในเหตุการณ์ 9/11 มาแล้ว
และให้กลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มอัลนุสราฟร้อนของซาอุฯ และกลุ่มกบฏ FSA
แปลงร่างเป็นกองกำลัง IS CIA เพื่อใช้ประโยชน์ให้ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย
เหมือนกับที่เคยทำให้อัฟกานิสถาน
ในปัจจุบันอเมริกา
ก็ใช้กองกำลัง IS CIA ต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย
และภูมิภาคในย่านนั้น เช่น อิรัก เลบานอน ลิเบีย อียิปต์ เยเมน เมื่อรัสเซียยื่นเท้ามาตะปบกองกำลัง IS
CIA อเมริกาจึงวาดฝันต้องการให้รัสเซียตกม้าตายอีกครั้งเหมือนคราวในอัฟกานิสถาน
โดยใช้รูปแบบกลุ่มก่อการร้ายเดิมๆ ที่เคยใช้จัดการสหภาพโซเวียติในอัฟกานิสถาน
แต่ทว่าอเมริกา นาโต้
และเหล่าพันธมิตรอาหรับ คงลืมจุดสำคัญไปว่าผู้นำ “สหภาพโซเวียติ” ในสมัยเมื่อกว่า 28 ปีที่แล้วไม่ใช่ผู้นำ “รัสเซีย” ในสมัยนี้
และรัสเซียสมัยนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่อเมริกาจะหยั่งถึงนัก
ในด้านขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์
รัสเซียก็มีเกือบ 20,000 ลูก หรือมากกว่าอเมริกาถึง 10,000
ลูก
เรือดำน้ำรัสเซียติดหัวรบนิวเคลียร์ ก็มีสมรรถะสุโค่ย และมีปริมาณมากกว่าอเมริกาจมกระเบื้อง เครื่องบินรบรุ่นใหม่ตระกูล Su ของรัสเซีย ก็มีประสิทธิภาพไม่ต่างจาก F16 , F18 ของอเมริกา ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ “ รัสเซียไม่มีหนี้สิน” แต่อเมริกามีหนี้สาธารณะต่างชาติกว่า 630 ล้านล้านบาท
เรือดำน้ำรัสเซียติดหัวรบนิวเคลียร์ ก็มีสมรรถะสุโค่ย และมีปริมาณมากกว่าอเมริกาจมกระเบื้อง เครื่องบินรบรุ่นใหม่ตระกูล Su ของรัสเซีย ก็มีประสิทธิภาพไม่ต่างจาก F16 , F18 ของอเมริกา ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ “ รัสเซียไม่มีหนี้สิน” แต่อเมริกามีหนี้สาธารณะต่างชาติกว่า 630 ล้านล้านบาท
คนมีหนี้จะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด
เพราะต้องกู้ของใหม่มาโป๊ะหนี้ของเก่าอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีชนักปักหลัง
ดังนั้นอเมริกาย่อมไม่กล้าลุยสุดตัว แต่เมื่อรู้ว่าแพ้ที่สงครามตรงจุดซีเรีย
ก็จะลอยแพกองกำลัง IS CIA และกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยปล่อยให้รัสเซียฆ่าเล่นเป็นงานอดิเรก
แล้วอเมริกาก็จะหนีหางจุกตูด
ขอสภาไปเปิดศึกสงครามที่ประเทศคาเมรูนในแอฟริกาตะวันตก
อ้างว่าต้องฆ่าเพื่อประชาธิปไตยต่อสู้กับกลุ่มโบโกฮาราม ที่แผ่อิทธิพลมาจากไนจีเรีย โถ..อเมริกาคิดว่าชาวโลกเขาโง่ อเมริกาจำไม่ได้หรือว่าไนจีเรีย
มีน้ำมันมากที่สุดในทวีฟแอฟริกา กลุ่มโบโกฮารามก็คือกลุ่มย่อยของกองกำลัง IS CIA ที่อเมริกาส่งไปป่วนไนจีเรีย
เพื่อยึดครองบ่อน้ำมัน
แล้วอเมริกาก็ส่งบริษัทน้ำมันไปขุดเจาะหน้าตาเฉย แถมส่งกำลังทหารอเมริกาไปคอยปกป้องกลุ่มโบโกฮารามซะอีก
แล้วกลุ่มนี้ก็จะคอยสร้างความหวาดกลัวให้ชาวแอฟริกา โดยการลอบโจมตีฆ่าคนบางวันถึง 1,000 คนในคราวเดียว ศพกองทั้งหมู่บ้าน บางทีก็โจมตีมหาวิทยาลัย
ฆ่าหมู่นักศึกษาซะงั้น
แล้วอเมริกาก็ปล่อยเชื้ออีโบลาไประบาดที่แอฟริกาอีกเมื่อปีที่แล้ว
ใครกลัวตายจากสงครามหรือโรคระบาดก็อพยพหนีเข้าไปในยุโรป
บางหมู่บ้านไม่เหลือเคยจนคนเดียว กลุ่มโบโกฮารามก็ไล่ที่สำเร็จ
และทำการยึดบ่อน้ำมัน ชาวแอฟริกาจะอพยพหนีเข้ายุโรปก็เจอขบวนการค้ามนุษย์อีก โดย UNHCR ร่วมกับอเมริกาและกลุ่มโบโกฮารามนี่แหละขบวนการค้ามนุษย์ตัวยงเลย
ตอนที่แล้วให้ดูกองทัพอากาศรัสเซีย
โจมตีพื้นที่ยึดครองของกองกำลัง IS CIA ในหลายพื้นที่ในประเทศซีเรีย โดยยิง “บ้องข้าวหลามยักษ์”
จำนวน 26 ลูกจากเรือรบ 4 ลำ ในทะเลสาปแคสเปียน
ที่อยู่ห่างออกไปถึง 1,500 กิโลเมตร ข้ามดินแดนประเทศอิหร่านกับอิรัก
โดยจรวดทั้งหมดพุ่งเข้าทำลายทุกเป้าหมายอย่างแม่นยำ
จากแผนที่แสดงให้เห็นเส้นทางของจรวดที่คดเคี้ยว ในบางช่วงวิ่งสลับเส้นทางกันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง สร้างความตื่นตะลึงให้ชาวโลก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่หาดูเทคโนโลยีของรัสเซียได้ยาก ชาวโลกมักจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีของกองทัพอเมริกา เช่น เมื่อครั้งยิงจรวดร่อนโทมาฮอว์คนับร้อยลูก
จากเรือพิฆาต
และเรือดำน้ำในทะเลอาหรับ เข้าถล่มเป้าหมายฝ่ายรัฐบาลประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน
ในกรุงแบกแดด ของอิรัก และ เมืองสำคัญอื่นๆ ทั้งกลางวัน กลางคืน ในช่วงสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่อเมริกากระทำต่อประชาชนชาวอิรัก
และจรวดร่อนของอเมริกานั้นปฏิบัติการตามโปรแกรมที่ตั้งล่วงหน้า
และนำทางด้วยดาวเทียม
นับเป็นครั้งแรกที่ชาวโลกได้เห็นเทคโนโลยีจรวดโจมตีทางยุทธวิธีระยะไกลอันล้ำหน้าของรัสเซีย
ที่มีการยิงข้ามแผ่นดิน 2 ประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลอิหร่านกับอิรัก
ไปทำลายเป้าหมายที่อยู่ไกลลิบ และทำลายหลายเป้าหมายพร้อมๆ กัน ถึง 11 แห่ง ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
และจรวดทั้งหมดร่อนไปตามเส้นทางที่กำหนด
โดยหลีกเลี่ยงตัวเมือง กับแหล่งที่มีประชาชนอาศัยหนาแน่น เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และเป็นการเปิดเผยให้เห็นอาวุธลับของรัสเซีย
โดยไม่กลัวระบบต่อต้านอาวุธนำวิถีของโลกตะวันตกอีกต่อไป สร้างความช็อคให้กับอเมริกาและนาโต้
เพราะข่าวกรองไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
นี่ยังไม่นับ “ข้าวต้มมัด” อาวุธระเบิดชนิด Cluster Bomb แบบดาวกระจาย เล่นซะฝ่ายอเมริกาแทบสูญพันธุ์ แม้ว่าอเมริกาจะเอาเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่แบบ C -17 ของกองทัพอเมริกา และมีเครื่องบินขับไล่ตามประกบคอยคุ้มกัน ใช้ภาษีชาวอเมริกันจัดซื้อขนส่งเสบียง และอาวุธหนึกถึง 50 ตัน ราว 100 ถุง
หย่อนจากทางอากาศไปให้กองกำลัง
IS CIA ถึงในจังหวัดฮาสซาเกห์ ทางตอนเหนือของซีเรีย
เจ้าหน้าที่กองทัพอเมริกา เผยว่าการทิ้งเสบียงและอาวุธทางอากาศแก่กองกำลังฝ่ายกบฏ
และกลุ่ม IS CIA เป็นส่วนหนึ่งของแผนยกเครื่องทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา
เพื่อช่วยกบฏที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง สู้รบกับรัฐบาลซีเรียที่ประชาชนเลือกตั้งมาอย่างถูกกฎหมาย
จากนั้นขนถ่ายขึ้นรถเทรเลอร์อีกต่อเอามาให้ถึงที่ในสนามรบ
พวกเขาได้ขับรถถังตระเวณไปทั่วเมืองในเขตที่รัสเซีย และซีเรียยังไม่ถึงคิวยึดขอคืนพื้นที่ตะโกนให้
"วัยรุ่นชาย" ชาวมุสลิมออกมาทำจีฮัด พลีร่างกายเพื่อประชาธิปไตย แล้วจ้าวลัทธิฯ
จะพาขึ้นสู่สวรรค์ พวกกบฏเผยว่าได้รับแจ้งจากรัฐบาลอเมริกา กำลังลำเลียงอาวุธใหม่มาส่งมอบช่วยเหลือพวกเขา
ที่เตรียมปฏิบัติการจู่โจมเมืองรักกา เมืองใหญ่ที่กลุ่ม IS CIA เคยยึดไว้ได้ เพราะตอนนี้จ้าวลัทธิฯ จนตรอกไม่มีจะกินแล้วหนี้ท่วมใช้ 10 ชาติก็ไม่หมด ต้องพาชาติเข้าสงครามโลกให้ได้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจผู้เลือกตั้ง ขืนไม่ออกมาช่วยกันนอนหลับทับสิทธิ์ รัสเซียคงพากองกำลัง IS CIA ลงนรกหมดแน่ๆ
ที่เตรียมปฏิบัติการจู่โจมเมืองรักกา เมืองใหญ่ที่กลุ่ม IS CIA เคยยึดไว้ได้ เพราะตอนนี้จ้าวลัทธิฯ จนตรอกไม่มีจะกินแล้วหนี้ท่วมใช้ 10 ชาติก็ไม่หมด ต้องพาชาติเข้าสงครามโลกให้ได้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจผู้เลือกตั้ง ขืนไม่ออกมาช่วยกันนอนหลับทับสิทธิ์ รัสเซียคงพากองกำลัง IS CIA ลงนรกหมดแน่ๆ
จ้าวลัทธิประชาธิปไตย
จะใช้คนอื่นไปตายแทนตัวเองเสมอเพื่อดันให้ตนเองเสวยสุข
ท่ามกลางซากกองกะโหลกของมนุษย์ พฤติกรรมเหมือนอั้งยี่เผาไทย
และแก๊งค์ก่อการร้ายหน่วยป่วนชาติแดง นปช. ที่หลอกทุยแดงฉลาดน้อยไปเผาบ้านเผาเมืองและตายแทนตัวเอง
เสร็จแล้วจะได้เสวยสุขบนซากศพ
สถานการณ์ความรุนแรงยังลุกลามเข้าไปยังอิสราเอล สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ประกาศแจ้งเตือนคนไทยในอิสราเอลให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปแหล่งชุมชน
เพราะสถานการณ์ทางการเมือง และการก่อการร้ายมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น เพราะนายมาห์มูด อับบาส
ประธานาธิบดีปาเลสไตน์แถลงการณ์ผ่านช่องสถานีโทรทัศน์ของปาเลสไตน์ว่า
ปาเลสไตน์จะเดินหน้าต่อต้านอิสราเอลในเมืองเยรูซาเล็ม
และในดินแดนปาเลสไตน์ ต่อการกระทำที่รุนแรงของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ที่ไร้ทางต่อสู้
เขาบอกว่าการตั้งรกรากของอิสราเอลเป็นต้นกำเนิดความขัดแย้งระหว่างศาสนาในพื้นที่
ไม่เพียงแต่ในภูมิภาคเท่านั้น ยังลามไปทั่วโลกอีกด้วย
“เราจะไม่ยอมปล่อยให้แผนร้ายของอิสราเอลเข้าสู่เมืองเยรูซาเล็มและพื้นที่
มัสยิดอัลอักซอ” การทำสงครามกันปีที่แล้วอิสราเอลสามารถสังหารเด็ก
และผู้หญิงชาวปาเลสไตน์ไปได้ราวเกือบ 10,000 ราย และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 30 ราย ในดินแดนปาเลสไตน์ เพราะกองทัพอิสราเอลยกทัพข้ามชายแดนมาฆ่า
และมีมากกว่า 1,000 รายบาดเจ็บจากสถานการณ์ปะทะอันรุนแรงในทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม เขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซ่า
ชาวปาเลสไตน์ “มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองในการต่อสู้เพื่อสันติภาพ
กฎหมายและการเมือง” และ “เราจะไม่ยึดตามข้อตกลงที่อิสราเอลเองก็ไม่ได้ให้ความเคารพ”
ด้านสถานการณ์ในตุรกีก็สุ่มเสี่ยงมากเช่นกัน
เพราะนายอาบู บาร์ค อัล-บัคดาดี ผู้นำกองกำลัง IS CIA หายไปหลังจากที่ขบวนของเขาถูกกองทัพอากาศอิรักทิ้งระเบิด
ระหว่างการเคลื่อนย้าย โดยมีนักรบระดับผู้บัญชาการของกลุ่มฯ เสียชีวิตไปหลายคน ตอนนี้ชาติมือที่มองไม่เห็นจึงสั่งปล่อยตัวนายอาบู
ฮัดซัลลา อกรา อิบราฮิม ตัวแสบ
เขาเป็นหัวหน้ากองกำลัง IS CIA คนเก่า (ก่อนนายบักตาดี) ออกมาจากคุกแล้ว มีเงื่อนไขคือให้ยกระดับการก่อการร้ายในตะวันออกกลาง
และต่อสู้กับฝ่ายรัสเซียให้รุนแรงมากที่สุด โดยจ้าวลัทธิประชาธิปไตย
ประกาศเป็นผู้สนับหนุนหลักอย่างเป็นทางการ อัดเงินประเดิมให้เขามากกว่า 200
ล้านบาท ในการต่อสู้ “ปฏิวัติด้วยปืน” โค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้งซีเรียที่
UN รับรอง
และขยายสงครามกับรัสเซียในสงครามโลกครั้งนี้
และตอนนี้สถานการณ์ในตุรกีก็ระส่ำระสายหนัก
เพราะรัฐบาลเสื้อแดงจ้องแต่จะโจมตีด้วยอาวุธกับฝ่ายค้าน และมวลมหาประชาชนชาวตุรกี
มีการวางระเบิดกลางม็อบหลายครั้ง ใครต่อต้านรัฐบาลจะถูกอุ้มหายสาบสูญ
เกิดจราจลมิกสัญญีไปทั่วแผ่นดิน
และอิหร่านก็ยกกองทัพมาจ่อตรงชายแดนด้านทิศตะวันออกของตุรกีไว้
เมื่อไรที่ตุรกีรับคำสั่งอเมริกาบุกซีเรีย
ทางอิหร่านก็จะบุกตุรกีทางด้านนี้เช่นกัน
สงผลให้ตุรกีถูกตรึงไว้เป็นอัมพาตไม่สามารถออกไปช่วยอเมริกาทำสงครามโลกได้
และอิหร่านก็เพิ่งเผยให้เห็นอุโมงค์ยักษ์
ที่ใช้สำหรับเป็นฐานปล่อยขีปนาวุธบ้องข้าวหลามยักษ์พิสัยไกล
ที่จะยิงใส่ประเทศใดก็ได้ในโลกนี้
สร้างความหวั่นไหวเยี่ยวปริบกับซาอุฯ มาก
ฝ่ายรัสเซียก็ออกคำสั่งให้กองทัพเรือเคลื่อนเรือหลวง
Kuznetsov เข้าประจำการใน Barents Sea จ่อยุโรปเหนือพร้อมโจมตีได้ทันทีที่ได้รับคำสัง และด้านทางยุโรป เช่น
เยอรมัน และอีกหลายประเทศ ก็มีการเคลื่อนพลรถถังกันคึกคักโดยใช้รถไฟขนเข้าประชิดชายแดน
น่าหนุกหนาน
ศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐในประเทศกาตาร์ ตั้งจอเรดาร์จับความเคลื่อนไหวน่านฟ้าในซีเรีย
และมีเรือบรรทุกเครื่องบินเลี่ยวหนิงของจีนจอดรอบริเวณอ่าวซีเรีย พร้อมที่จะส่งเครื่องบินรบ J-15 ออกปฎิบัติการในซีเรียช่วยรัสเซียได้ทุกเวลา
ส่วนอิรัก อิหร่าน ก็อนุญาตให้เครื่องบินของรัสเซียบินเหนือน่านฟ้าได้
ด้านกองทัพเยเมน แถลงว่า ซาอุดีอาระเบียและอเมริกาได้ใช้อาวุธต้องห้าม ทั้งระเบิดเคมี ก๊าสพิษ และชีวภาพ ในการโจมตีเมืองมาริบ ของเยเมน ทำให้มีการแพร่ระบาดโรคไปในหลายส่วนของจังหวัด Sa’ada ขณะนี้มีชาวเมืองเสียชีวิตแล้ว 1,200 กว่าคน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและผู้หญิง และมีพลเมืองที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2,500 กว่าคน
และตอนนี้จะเรียกว่าซาอุฯ
เกิดการ “ยึดอำนาจ” แล้วก็ไม่ผิดนัก
เพราะเจ้าชายจาก 4 สายเชื้อพระวงศ์ต่างเข้ายึดกุมอำนาจสั่งการจากกษัตริย์ซาอุฯ
แล้วและการเมืองภายในซาอุฯ ตอนนี้ไม่เป็นเอกภาพและแตกแยกภายในจากการช่วงชิงอำนาจ
ส่อแววจะเกิดสงครามกลางเมืองเหมือนในอดีต
และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของซาอุฯ ที่ติดกับเยเมนตอนนี้
ก็แทบกุมสถานการณ์สั่งการไม่ได้แล้ว
เพราะนักรบฮูทีบุกเข้ามายึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญไปได้หมด เหลือแต่รอรวบรวมกำลังบุกเมืองหลวงซาอุฯ
เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองภายในเท่านั้น
นักรบฮูทีจากเยเมน
โดยการหนุนจากอิหร่านก็จะบุกเข้าเมืองหลวงและยึดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
สถานการณ์สงครามโลกตอนนี้
มันร้ายแรงไปไกลเกินกว่าจะหยุดกันง่ายๆ ด้วยการเจรจาเสียแล้ว หลักการสงครามมีง่ายๆ
ฝ่ายใดงัดอาวุธเคมี ก๊าสพิษ และชีวภาพ มาเริ่มการโจมตีก่อน
แสดงว่าฝ่ายนั้นรู้ตัวว่าเสียเปรียบ กฎการทำสงครามคือ “ไม่มีกฎ” การที่ซาอุฯ ใช้อาวุธต้องห้ามนั่นหมายความว่าไปไม่ได้แล้ว
มาลุ้นกันว่ารัฐบาลซาอุฯ
ซีเรีย อิรัก เยเมน ตุรกี ใครจะกลับบ้านเก่าไปก่อนกัน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผลไม้
และขนมไทย ขายดีสุดๆ ในตะวันออกกลาง..น้อยหน่า ข้าวหลามยักษ์
ข้าวต้มมัด -ขายดีมาก..และในไม่ช้านี้เราอาจจะได้เห็นเห็ดปลูกในตะวันออกกลาง แล้วต่อด้วยยุโรป..ตูม !!
@ เสธ น้ำเงิน2
** แจ้งข่าวหนังสือรวมเล่ม
แฉ ความลับ เล่ม 3 ตอน เปิดผนึกบันทึกสยาม
ออกแล้วเหมาะเป็นของฝากสำหรับนักรบน้ำหมาก หรือของสะสม และ ebooks คลิ๊กง่ายๆ ไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO และที่ร้าน B2S ทุกสาขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น